สำนักงานเลขาธิการครุสภา โดยมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอเชิญผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่เกษียณอายุงานในปี พ.ศ. 2565 (30 กันยายน 2565) ที่มีประวัติชีวิตการทำงานดีตลอดมา และมีความประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีตามจารีตของครู ยื่นแบบคำขอรับพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2565 จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือผู้แทนพระองค์
ผู้มีสิทธิยื่นแบบคำขอฯ ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้ 1) เป็นสมาชิกคุรุสภาตามพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 หรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 2) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพครู หรือผู้บริหารสถานศึกษา หรือผู้บริหารการศึกษา หรือศึกษานิเทศก์ จนถึงอายุ 60 ปี บริบูรณ์ 3) มีระยะเวลาประกอบวิชาชีพทางการศึกษารวมกันไม่น้อยกว่า 30 ปี นับถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 (กรณีผู้ที่อายุครบ 60 ปี ในปี พ.ศ. 2564 ให้นับถึงวันที่ 30 กันยายน 2564) ทั้งนี้ ไม่นับรวมเวลาราชการทวีคูณ และ 4) มีประวัติชีวิตการงานดีตลอดมามีความประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี ตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ หรือจารีตของครูไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย แม้จะได้รับการล้างมลทินแล้วก็ตาม
เอกสารประกอบการพิจารณาขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกอบด้วย 1) แบบขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ (มอ.1) เสนอผู้บังคับบัญชาลงนามรับรอง 2) รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป 3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 4) สำเนาทะเบียนประวัติ (กพ.7) หรือสำเนาทะเบียนประวัติอิเล็กทรอนิกส์ (กคศ.16) หรือสำเนาสมุดประวัติ (โรงเรียนเอกชน) หรือสำเนาบัตรประวัติพนักงานเทศบาล ทุกหน้า และให้รับรองสำเนาด้วยปากการหมึกสีน้ำเงินทุกหน้า โดยนักทรัพยากรบุคคล หรือผู้รับผิดชอบการจัดทำทะเบียนประวัติ
กรณีหลักฐานการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ไม่ครบ 30 ปี ถ้าเคยทำการสอนสังกัดอื่น จะต้องให้หัวหน้าหน่วยงานต้นสังกัด (เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือผู้อำนวยการกองทะเบียน หรือศึกษาธิการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานต้นสังกัด แล้วแต่กรณี) ออกหนังสือรับรองว่าเคยปฏิบัติหน้าที่ ณ สถานศึกษานั้น ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงวันสิ้นสุด ณ วัน เดือน ปี ใด สำหรับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่โรงเรียนเอกชนในปัจจุบัน ต้องแนบสำเนาสมุดประวัติการเป็นครู บันทึกสถานที่ปฏิบัติงาน วันบรรจุ วันจำหน่ายออกในแต่ละช่วงให้ครบถ้วน และให้ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้ออกหนังสือรับรองว่ายังทำการสอนอยู่ และจะจำหน่ายออกเมื่อใด
สามารถยื่นแบบคำขอฯ พร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาได้ที่สถานศึกษา หรือหน่วยงานที่ตนเกษียณอายุราชการ ภายในวันที่ 29 เมษายน 2565
สำหรับผู้ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน ต้องแนบแบบคำขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน (มอ. 2) และเอกสารประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมตามที่คุรุสภากำหนด เพื่อดำเนินการตามลำดับต่อไป
กรณีที่มีอายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2564 แต่ยังมิได้ยื่นคำขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติฯ ให้มีสิทธิยื่นคำขอในปีนี้ได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ขอรับได้เฉพาะเครื่องหมายเชิดชูเกียรติและประกาศนียบัตรเท่านั้น โดยให้ยื่นแบบคำขอพร้อมเอกสาร ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ตามที่ตั้งสถานศึกษา หรือหน่วยงานที่ท่านเกษียณอายุราชการ ภายในวันที่ 29 เมษายน 2565
ดาวน์โหลด>> แบบขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติครูอาวุโส ประจำปี 2565 (แบบ มอ. 1)
ดาวน์โหลด>> แบบขอรับการช่วยเหลือทางการเงินครูอาวุโส ประจำปี 2565 (แบบ มอ. 2)
ดาวน์โหลด>> ผลการพิจารณาคัดเลือกครูอาวุโสผู้สมควรได้รับเงินช่วยเหลือ ประจำปี 2565 (แบบ มอ. 3 สำหรับสถานศึกษาหรือหน่วยงาน)
ดาวน์โหลด>> บัญชีรายชื่อครูอาวุโสที่ขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และประกาศนียบัตร ประจำปี 2565 (แบบ มอ. 4 สำหรับสถานศึกษาหรือหน่วยงาน)
ดาวน์โหลด>> แบบตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารประกอบการพิจารณา การขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ฯ (แบบ มอ. 5 สำหรับสถานศึกษาหรือหน่วยงาน)
ดาวน์โหลด>> ข้อแนะนำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นแบบขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติครูอาวุโส ประจำปี 2565 (แบบ มอ. 1)
ดาวน์โหลด>> ข้อแนะนำการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นแบบขอรับเงินช่วยเหลือ ประจำปี 2565 (แบบ มอ. 2)
ดาวน์โหลด>> สถานที่ติดต่อขอรับ และยื่นแบบขอรับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือครูอาวุโส ประจำปี 2565
|